วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Radeon™ RX 460 กราฟฟิกการ์ดใหม่จาก AMD สุดยอดเทคโนโลยีสำหรับคอเกมอีสปอร์ตทั่วโลก

นายราจา โคดูริ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายออกแบบของกลุ่มเทคโนโลยีเรดิออน กล่าวว่า “กราฟฟิกการ์ด Radeon RX 460 คือความสมบูรณ์แบบของส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง ราคา การใช้พลังงาน ประสิทธิภาพ และขนาดของกราฟฟิกการ์ด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหลักสี่ข้อของ GPUs สมัยใหม่ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Radeon RX สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และออกแบบมาให้เหมาะกับการเล่นเกมด้วยพีซีในราคาสุดคุ้ม ผู้ใช้งาน RX 460 จะเพลิดเพลินกับการปรับแต่งใช้งานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับระบบอีสปอร์ต และ iCafé”
กราฟฟิกการ์ด Radeon RX 460 ให้ประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง เหมาะที่สุดกับเกมอีสปอร์ตต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในระดับโลก รวมทั้งรองรับซอฟต์แวร์ DirectX® 12 และ Vulkan™ APIs ซึ่งเป็นที่นิยมใช้พัฒนาเกมที่มีคุณภาพระดับ AAA ต่างๆ กราฟฟิกการ์ด Radeon™ RX 460 มีหน่วยประมวลผลถึง 14 หน่วย (compute units) มีชนิดหน่วยความจำให้เลือกทั้ง  2 GB และ 4 GB แบบ GDDR5 และพลังการประมวลผลที่ 2.2 teraflops แต่ใช้พลังงานเพียง 75 วัตต์เท่านั้น จึงเหมาะกับการใช้งานใน iCafé ซึ่งเรื่องการใช้พลังงานเป็นเรื่องสำคัญมาก และยังให้ความเงียบและอัตราเฟรมเรตที่น่าทึ่ง
คุณสมบัติของ Radeon™ RX 460
  • เล่นเกมที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างยอดเยี่ยม  กราฟฟิกการ์ด Radeon RX 460 เหมาะกับความต้องการความละเอียดในการเล่นเกมที่นิยมมากที่สุดในขณะนี้ ให้เฟรม เรตสุดยอดที่ 1080p เมื่อเล่นกับเกมอีสปอร์ตต่างๆ เช่น League of Legends, Overwatch และ DOTA 2 เป็นต้น นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณภาพให้กับภาพ และลดรอยหยักของภาพได้ด้วยฟีเจอร์ Virtual Super Resolution2 สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลด้วยการใช้เทคโนโลยี AMD Freesync™ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของกราฟฟิกการ์ดโดยการตั้งค่าที่ซอฟต์แวร์ Radeon Settings กราฟฟิกการ์ด RX 460 ทำงานได้อย่างเหนือชั้นกับ DirectX® 12 และ Vulkan™ APIs ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาวงการเกมมิ่งในอนาคต
  • ให้ความเย็น และเงียบในการเล่นเกมส์ – เกมเมอร์สามารถลดเสียงรบกวนจากพัดลมระบายความร้อนด้วยคุณสมบัติ silent gaming ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดคุณสมบัติที่สร้างจากสถาปัตยกรรมโพลาริส ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 14nm FinFET โดย Radeon RX 460 สามารถปรับอุณหภูมิได้อย่างชาญฉลาด รวมทั้งยังช่วยปิดพัดลมระบายความร้อนในระหว่างที่กราฟฟิกการ์ดอยู่ในสถานะ idle (ไม่มีการทำงาน) หรือ ในช่วงที่โปรแกรมเกมมีการทำงานไม่หนักมาก3 ทั้งนี้กราฟฟิกการ์ด Radeon RX 460 ยังไม่ต้องต่อไฟเลี้ยงเพิ่ม และมีอุณหภูมิในการทำงานที่ต่ำ ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาการอัพเกรดใหม่ๆ
  • รองรับความละเอียดระดับ HDR Pixels ที่น่าทึ่ง – กราฟฟิกการ์ด Radeon™ RX 460 เป็นเครื่องมือในการแสดงผลรุ่นใหม่ที่พร้อมใช้กับ HDR content และจอภาพรุ่นใหม่ๆ ให้กับวิดีโอและการเล่นเกม4
  • ควบคุมได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน – กราฟฟิกการ์ด Radeon™ RX 460 เป็นฮาร์ดแวร์ที่สร้างจากสถาปัตยกรรมโพลาริสที่ทรงประสิทธิภาพ และมีซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกับการ์ดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน ไดร์เวอร์ Radeon Software ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ทั้งคุณสมบัติต่างๆ และความเสถียรในการใช้งาน ช่วยให้เหล่าเกมเมอร์มั่นใจได้ว่าจะได้สัมผัสกับการเล่นเกมที่แสนจะลื่นไหลและเร็วสุดยอด

“Facebook” ประกาศลงโทษข่าวที่เน้นพาดหัว clickbait บน timeline ด้วยการทำให้คนเห็นน้อยลง!!

Clickbait (คลิก-เบท) เป็นคำที่ผสมกันระหว่างคำว่า Click (การกด) และ Bait (สิ่งล่อใจ) เพราะสมัยนี้เป็นโลกแห่งยุคอินเทอร์เน็ตและสื่อโซเชียลหลากหลายรูปแบบ ไม่แปลกที่หลายคนจะเกาะกระแสเรื่องราวเหล่านั้นเพื่อเพิ่มยอดไลค์ ยอดอ่านให้กับตัวเอง และเป็นธรรมดาที่เมื่อข่าวหรือกระแสอะไรที่มีคนสนใจมาก การแสวงหาผลประโยชน์ก็จะพุ่งเป้ามาที่จุด ๆ นั้นทันที การเขียนข่าวโดยโปรยหัวแบบ Clickbait จึงเกิดขึ้น นั่นเป็นการกระตุ้นต่อมความสงสัยบวกกับความอยากรู้ของเรา ทำให้เราจำต้องกดเข้าไปในข่าวนั้น ๆ แต่พอกดเข้าไปแล้ว ก็ไม่พบความน่าตื่นเต้นและไม่ได้เป็นไปตามที่หัวข้อข่าวขึ้นแต่อย่างใด (เปลืองเน็ตไปอีกอ่ะ ฮือฮือ!!)
ดังนั้นเพื่อเป็นการดักทางเพจต่าง ๆ ที่ชอบนำเสนอข่าวที่มีหัวข้อส่วนใหญ่เป็น Clickbait  Facebook จึงประกาศเพิ่มมาตรการลดการแสดงเว็บไซต์หรือข่าวที่เน้นไปทาง clickbait บน timeline ของเรา โดยจะวิเคราะห์หัวข้อข่าวนั้น ๆ ว่ามีการปิดบังข้อมูลที่ควรบอกให้คนอ่านได้รับรู้ หรือเป็นหัวข่าวที่ชี้นำให้เข้าใจผิดหรือเปล่า!!
การวิเคราะห์การพาดหัวข่าวแบบ Clickbait นี้เป็นคล้ายกับการจับสแปมในอีเมล มักจับในรูปแบบของประโยคที่คล้าย ๆ กัน จากนั้นทาง Facebook จะหาเว็บต้นทางและเพจที่โพสต์หัวข้อมีแนวโน้มแบบ clickbait เช่นนี้บ่อย ๆ และเมื่อพบและมีข้อมูลมากพอ เว็บหรือเพจเหล่านั้นจะต้องถูกลงโทษด้วยการแสดงผลในพื้นที่ด้านล่าง timeline ลงไป ทำให้คนเห็นข่าวนั้น ๆ ได้น้อยลง ระบบนี้จะปรับตัวไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากทางเว็บหรือเพจนั้น ๆ หยุดหรือเปลี่ยนการโพสต์หัวข้อข่าวไปเป็นแบบที่ตรงเงื่อนไขของทาง Facebook การตั้งค่าก็จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง (แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าระบบนี้จะรองรับการกรองข่าวภาษาไทยได้หรือเปล่านะจ๊ะ ต้องตามลุ้นเอา)

ปุ่มเปิดเครื่องของ MacBook Pro รุ่นใหม่จะมี Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือด้วย

หลบจากข่าว iPhone 7 มาที่ฝั่ง Mac กันบ้าง ล่าสุดมีรายงานว่า MacBook Pro ตัวใหม่ที่จะเปิดตัวช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้จะมี Touch ID กับเค้าบ้างแล้ว 
9to5Mac รายงานว่าได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ระบุว่า MacBook Pro รุ่นใหม่จะมี Touch ID ที่ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง พร้อมกับแผงควบคุม (เหนือคีย์ตัวเลข) จะเปลี่ยนจากคีย์บอร์ดมาเป็นระบบสัมผัสหน้าจอแบบ OLED ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้ Touch ID ได้มากขึ้น
การที MacBook Pro จะเพิ่ม Touch ID นั่นก็จะช่วยให้การใช้งานนั้นสะดวกยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับ iPhone เพียงแค่เปิดเครื่อง วางนิ้วไว้ก็สามารถเข้าเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องพิมพ์รหัสอะไรทั้งนั้นครับ

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Valve] ปล่อยแอปพลิเคชั่น Steam สำหรับ Windows Phone อย่างเป็นทางการแล้ว

เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ครอบคลุมมากขึ้นนอกเหนือจากฝั่ง Android หรือ iOS เมื่อล่าสุด Valve ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Steam สำหรับชาว Windows Phone อย่างเป็นทางการส่งตรงลงบน Windows Store เรียบร้อยแล้วโดยจะมีฟีเจอร์ให้ใช้หลัก ๆ ประมาณ 5 อย่างที่จะทำให้การซื้อเกมเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ของแอปพลิเคชั่นดังกล่าวนี้ก็จะมีหัวใจหลักอยู่ 5 ประการครับได้แก่
  • สามารถค้นหาเกมบน Store และซื้อเกมได้
  • ควบคุมอัตราการ Downloads ด้วยตนเอง
  • สามารถเข้าดู Profiles ของตนเองได้
  • ตรวจสอบ Library ของผู้ใช้ได้
  • มีการยืนยันรหัสผ่าน 2 ชั้นเมื่อ Login บัญชี Steam
นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ปลีกย่อยอีกมากมายแต่อย่างไรก็ตามทางด้านฟีเจอร์จะไม่ครบเท่าของฝั่ง iOS และ Android และสำหรับใครที่สนใจหรือเป็นชาว Windows Phone ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นดังกล่าวได้ที่ Windows Storeครับ
“ไอซีที”เตือนอย่าส่งต่อไลน์ข้อความหมิ่นสถาบัน-ภัยความมั่นคง ยันเช็คได้หมด แนะใครได้รับข้อความ แจ้งความเอาผิดได้ ชี้เว็บหมิ่นทำเป็นขบวนการ

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า กระทรวงไอซีทีสามารถสอดส่องตรวจดูได้หมดว่ามีการส่งต่อข้อความประเภทไหนบ้างในแอพพลิเคชั่น “ไลน์” ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้ในไทยราว 33 ล้านคน มีการส่งข้อความวันละเกือบ 40 ล้านข้อความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความหมิ่นประมาท ข้อความหมิ่นสถาบัน และข้อความที่มีผลกระทบด้านความมั่นคง ซึ่งจะถูกจับตาเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามหากใครได้รับการส่งต่อข้อความประเภทนี้ สามารถนำข้อความนั้นไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้กระทรวงไอซีทีดำเนินการตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการไปตรวจสอบหาต้นตอที่ส่งมาได้
นายพรชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงไอซีที มีหน่วยงานหลักที่ดำเนินการติดตามเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย และเว็บไซต์ที่ขายยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) รวมถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งมีประมาณร้อยละ 20-30 โดยทำเป็นขบวนการ ซึ่งต้องจัดการทั้งหมด




ระบบปฏิบัติการ

dos

ระบบปฏิบัติการดอส 
(DOS : Disk Operating System)
     ริ่มมีใช้ครั้งแรกบนเครื่อง IBM PC ประมาณปี ค.ศ. 1981 เรียกว่าโปรแกรม PC-DOS ต่อมาบริษัทไมโครซอฟต์ได้สร้าง MS-DOS สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่รุ่น Versions 1.0 2.0 3.0 3.30 4.0 5.0 6.0 และ 6.22 ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ MS-DOS อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าๆ ที่มีทรัพยากรของระบบน้อย
คำสั่งของ DOS มีอยู่ 2 ชนิดคือ
1. คำสั่งภายใน (Internal Command) เป็นคำสั่งที่เรียกใช้ได้ทันทีตลอดเวลาที่เครื่องเปิดใช้งานอยู่ เพราะคำสั่งประเภทนี้ถูกบรรจุลงในหน่วยความจำหลัก (ROM) ตลอดเวลา หลังจากที่ Boot DOS ส่วนมากจะเป็นคำสั่งที่ใช้อยู่เสมอ เช่น CLS, DIR, COPY, REN เป็นต้น
2. คำสั่งภายนอก (External Command) คำสั่งนี้จะถูกเก็บไว้ในดิสก์หรือแผ่น DOS คำสั่งเหล่านี้จะไม่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำ เมื่อต้องการใช้คำสั่งเหล่านี้คอมพิวเตอร์จะเรียกคำสั่งเข้าสู๋หน่วยความจำ ถ้าแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ไม่มีคำสั่งที่ต้องการใช้อยู่ก็ไม่สามารถเรียกคำสั่งนั้น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คำสั่ง FORMAT, DISKCOPY, TREE, DELTREE เป็นต้น
ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์(Microsoft Windows)

ระบบปฏิบัติการนี้พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ ซึ่งมีส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (user interface)แบบที่เรียกว่า ระบบติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก หรือที่เรียกว่า จียูไอ (Graphical User lnterFace : GUl) คือ มีการเเสดงผลเป็นรูปภาพและใช้สัญลักษณ์ในรูปรายการเลือก (menu)หรือสัญรูป(icon)ในการสั่งงานคิมพิวเตอร์แทนการพิมพ์คำสั่งทีละบรรทัด ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น ทั้งยังมัสันที่ทำให้ซอฟต์แวร์น่าใช้งานมากขึ้น ระบบปฏิบัติการวินโดวส์นี้เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงมากในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป ทั้งนี้นอกจากใช้งานได้ง่ายดังที่กล่าวมาข้างต้นเเล้ว ยังเป็นเพราะหลังจากที่บริษัทไมโครซอฟต์ได้ผลิตระบบปฏิบัติการนี้ออกสู่ตลาดเเล้ว ยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่สามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการนี้ขึ้นหลายประเภท เช่น ซอฟต์เเวร์ประมวลผลคำ ซอฟต์เเวร์ตารางทำงาน ซอฟต์เเวร์นำเสนอ เป็นต้น ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของผู้ใช้ในทุกๆ ด้าน ซึ่งทำให้เกิดการใช้งานที่เเพร่หลายในปัจจุบัน

ระบบปฏิบัติการแมคอินทอช   (Macintosh Operaing System)

ระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอชเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ประสบความสำเร็จในการทำงานแบบจียูไอ(Gui) ในปี ค.ศ 1984 ของบริษัทแอปเปิล (Apple) ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นระบบปฏิบัติการแมค โอเอส mac os โดยเวอร์ชันล่าสุดมีชื่อเรียกว่าmac os x (x คือ เลข 10แบบโรมัน )เหมาะกับคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยบริาัท apple และมีความสามารถในการทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน multiasking เหมาะกับงานประเภทสิ่งพิมพ์ กราฟิก และศิลปะเป็นหลัก 

 ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux)

ระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากเฃ่นเดียวกัน พัฒนาขึ้นมาโดย ลินุส ทอวาลดส์ (Linus Torvalds) ชาวฟินเเลนด์ ลินุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่มีลักษณะคล้ายกับยูนิกซ์ เเต่มีขนาดเล็กกว่าและทำงานได้เร็วกว่าในช่วงเเรกเป็นการพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเท่านั้น เเต่ในช่วงหลังความนิยมในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายเพิ่มสูงขึ้น จึงมีผู้พัฒนาส่วนประกอบอื่น ๆ ของลิุกซ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานทางด้านเครือข่ายมากขึ้น

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ (Wndows server )

ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อใช่งานกับระบบเครือข่ายโดยเฉพาะ โดยรุ่ยแรกออกมาในชื่อ Windows NT และพัฒนามาเป็น windows 2000และรุ่นล่าสุด คือ Windows server 2003 ผลิตมาเพื่อรองรับการใช้งานในระดับองค์การขนาดเล็กและขนาดกลาง พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ ส่วนใหญ่เหมาะกับการติดตั้งและใช่งานกับเครื่องประเภทแม่ข่าย



ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์


ระบบปฏิบัติการที่เคยพัฒนาในห้องแล็บ Bellสร้างขึ้นเพื่อใช้กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์   และเมนเฟรม   ใช้ในการควบคุมการทำงานของศูนย์คอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมลูกข่ายคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงเป็นจำนวนมาก   ดังนั้นยูนิกซ์    จึงมักใช้ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่    และมีการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกลต่อมาได้มีการพัฒนาให้สามารถนำยูนิกซ์มาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ คาดว่ายูนิกซ์จะเป็นที่นิยมต่อไป



วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สรุปความ พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550

เนื่องจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้การประกาศใช้ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2550 ในด้านของการศึกษา โดยเฉพาะการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ในฐานะผู้ออกแบบและพัฒนานั้นจะต้องคำนึงถึงความถูกต้องเป็นสำคัญ จึงจำเป็นต้องรู้กฎหมาย และมีความรอบคอบในการทำงานและระวังให้มากขึ้น

1. เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่อนุญาตให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเขา ถ้าเราแอบเข้าไป … จำคุก 6 เดือน

2. เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่น แล้วเผยแพร่ให้คนอื่นรู้   จำคุกไม่เกินปี

3. แอบเข้าไปล้วงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บเอาไว้ในระบบคอมพิวเตอร์   จำคุกไม่เกิน 2 ปี

4. ข้อมูลที่ถูกส่งหากันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แล้วไปดักจับข้อมูลของเขา จำคุกไม่เกิน 3 ปี

5. ข้อมูลที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ถ้ามีไปตัดต่อ ดัดแปลง … จำคุกไม่เกิน 5 ปี (ดังนั้นอย่าไปแก้ไขงานเอกสารที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์คนอื่น)

6. ปล่อย Multiware เช่น virus, Trojan, worm เข้าระบบคอมพิวเตอร์คนอื่นแล้วระบบเข้าเสียหาย … จำคุกไม่เกิน 5 ปี

7. ถ้าเราทำผิดข้อ 5. กับ ข้อ 6. และสร้างความเสียหายใหญ่โต เช่น เข้าไปดัดแปลงแก้ไข ทำลาย ก่อกวน ระบบสาธารณูปโภค หรือระบบจราจร ที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ……..จำคุกสิบปีขึ้น

8. ถ้ารบกวนโดยการส่ง email โฆษณาต่างๆไปสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น  … ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

9. ถ้าเราสร้างโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์เพื่อเพื่อสนับสนุนผู้กระทำความผิด … จำคุกไม่เกินปีนึง

10. ส่งภาพโป๊ , ประเด็นที่ไม่มีมูลความจริง, ท้าทายอำนาจรัฐ … จำคุกไม่เกิน 5 ปี

11. เจ้าของเว็บไซด์โหรือเครือข่ายที่ยอมให้เกิดข้อ 10. โดนลงโทษด้วย … จำคุกไม่เกิน 5 ปี

12. ชอบเอารูปคนอื่นมาตัดต่อ … จำคุกไม่เกิน 3 ปี